วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ดื่มน้ำอย่างไรให้ได้ประโยชน์



        "น้ำ" สามารถใช้ชะลอความแก่ และสามารถบำบัดรักษาโรคได้ เราสามารถใช้น้ำเพื่อบำบัดรักษาโรคได้หลายโรค มีการพิสูจน์จนยอมรับว่าสามารถบำบัดรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล 100% (แต่ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ต้องใช้ระยะเวลานะคะ) ตังอย่างเช่น อาการปวดหัว อาการปวดตามตัว โรคระบบหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ โรคหัวใจเต้นเร็ว โรคลมบ้าหมู โรคอ้วน โรคหลอดลมอักเสบ โรคหืด วัณโรค อาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ โรคไต และยูริก โรคแสลงคลื่นไส้ต่าง ๆ โรคกระเพาะ โรคท้องร่วง โรคริดสีดวง โรคเบาหวาน โรคอาการท้องผูก โรคตา โรคภายในสตรี มะเร็ง และรอบเดือนไม่ปกติ โรคคอ หู จมูก
 
          เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่าางกายมากถึง 70% คุณทราบไหมค่ะว่าการดื่มน้ำการดื่มน้ำเวลาไหนถึงจะให้ประโยชน์สูงสุด ถ้าใครยังไม่ทราบวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ



     1. การดื่มน้ำที่ถูกต้องไม่ใช่ดื่มกันวันละ 8-10 แก้วให้หมดในคราวเดี๋ยวเลยน่ะค่ะแต่เราควรค่อยๆดื่ม ดื่มตอนไหนเวิร์กสุด
 
     2. เวลาตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำ 1 แก้ว (400ซีซี) เพราะเป็นช่วงที่เลือดมีความเข้มข้นสูงเลือดมีลักษณะขาดน้ำนั่นเอง

     3. เวลา 09.00-10.00น. ดื่ม  2 แก้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ร่างกายมีของสียเกิดขึ้นจึงควรดื่มน้ำมาชำระของเสียเหล่านั้นออกไป

     4. เวลา 13.00-14.00น. ดื่ม  3 แก้ว เป็นเพราะช่วงนี้เป็นภาวะขาดน้ำจะทำให้รู้สึกง่วงนอนหากดื่มช่วงเวลานี้จะทำให้เราสดชื้นและมีความคิดที่ดี
 
     5. เวลา 19.00-20.00น. ดื่ม 3 แก้ว 
 
     6. ก่อนนอนต้องดื่มอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียนชำระล้างางสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหารยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นแล้วจะยิ่งทำให้เราหลับสบายขึ้นอีกด้วย


          จะเห็นได้ว่าการดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายทำได้ง่ายนิดเดียว  เราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย  วันละ 8-10 แก้ว   นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้วยังช่วยให้ผิวสวยไม่แห้งตึงอีกด้วย



ที่มา http://www.mcot.net/site/content?id=5268cab3150ba08c1100006c#.U5KKFfmSxfA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น